เราสงสัยอีกว่าทำไมต้องมีเงื่อนไขเยอะจังกว่าจะมีชีวิตที่ดีได้
ตั้งแต่เมื่อไหร่และใครเป็นคนกำหนดว่างานไม่ประจำเท่กว่างานประจำ? ใครเป็นคนขีดเดดไลน์ให้ว่าอายุเท่านี้ต้องมีรายได้เท่านี้? ใครเป็นคนบอกกับสังคมว่าคนมีพอร์ตหุ้นเจ๋งกว่าคนไม่มีพอร์ตหุ้น? ทำไมการที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรในวันนี้ถึงเป็นเรื่องน่าอาย?
ทั้งๆ ที่จริงมันก็เป็นแค่เรื่องประจำวัย เหมือนวัยรุ่นเป็นประจำเดือน อายุเท่านี้ยี่สี่สิบกว่าๆ ก็เป็นธรรมดาที่จะงงใช่รึเปล่า เป็นธรรมดาที่รายได้จะยังไม่สูงมาก เป็นธรรมดาที่จะลาออกเปลี่ยนงานบ่อย ไม่ใช่หรือ
ใช่ เคสที่สำเร็จเร็วมันมีและมีจำนวนไม่น้อยด้วย แต่เฮ้ย บางทีเราก็ลืมถามไปรึเปล่าว่าจะรีบไปทำไม บางคนมีเหตุผล บางคนไม่ มันแค่อยากไปให้ถึง อยากรีบๆ ไป ถ้ารีบแล้วสุขสบายใจก็โอเค แต่ถ้ารีบแล้วเดือดร้อนใจ มันคุ้มไหม
ถ้าลองคุย หลายคนก็ยังหวั่น ยังไม่แน่ใจ ยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน และแต่ละคนก็ใช้เวลาไม่เท่ากันกว่าจะรู้ได้ ที่แน่ๆ ไม่มีใครรู้ได้จากการนั่งคิด ทั้งหมดมาจากการลองผิดลองถูก มันจากการลองทำหลายๆ อย่าง บางครั้งแทนที่จะพบสิ่งที่ใช่ เราจะได้เจอว่าอะไรไม่ใช่แทน ไม่นานตัวเลือกก็จะเลือกไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นมีทางของเราอยู่
ไม่มีใครถูกสตาร์ฟอยู่กับที่ได้เป็นสิบๆ ปีหรอก คนนะไม่ใช่แมวถูกฉีดฟอมาลีนชีวิตถึงจะไม่ก้าวหน้า อย่าเสียกำลังใจ ถ้ามองไม่เห็นว่าชีวิตเราตอนนี้โชคดียังไง ไปลองนั่งรถเมล์เล่นซักวัน หรือไม่ก็ไปลองนั่งรถไฟ ลองไปบริจาคข้าวของให้บ้านเด็กกำพร้า ลองไปเยี่ยมบ้านพักคนชรา หรือมูลนิธิผู้พิการ แล้วจะรู้เลยว่าคนรุ่นใหม่ Gen Y แม่งโชคดีขนาดไหนเราแค่พอใจอะไรในชีวิตยากเอง
ข้อดีของคนรุ่นใหม่คือมีความทะเยอะทะยานสูง เราอยากทำงานดีๆ มีชีวิตดีๆ มีฐานะดีๆ ถ้างั้นก็ต้องอย่าท้อง่ายใช่ไหม คนที่หวังสูงต้องเจอกับอุปสรรคเยอะกว่าคนทั่วไปใช่รึเปล่า ระหว่างทางจะมีคนหมั่นไส้ อิจฉา ต่อว่า นินทา ขัดแข้งขัดขา สบประมาท สารพัด ยามอยากได้ความช่วยเหลือ ความช่วยเหลือจะไม่มา (เหมือนเวลาอยากได้แท็กซี่ แม่งไม่เคยมา) โลกไม่ได้สวยขนาดนั้น มองอนาคตให้สดใส แต่ต้องเตรียมใจรับปัจจุบันให้มากๆ ใช่มั้ยเราจึงจะมีกำลังใจทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จ
ขณะที่เรามีความหวัง เท้าเราก็ยังอยู่บนพื้น ถ้าเสียกำลังใจลงไปนั่งคุกเข่า รีบลุกขึ้นมาเดินต่อดีไหม ความหนุ่มสาวของพวกเราคือสิ่งวิเศษสุดแล้วไม่ใช่หรือ
ปิดท้ายด้วย source of inspiration จากคุณ Jack Ma
"This is my advice to the young people: 25 years old, make enough mistakes. Don’t worry! You fall, you stand up, you fall…enjoy it! You’re 25 years old, enjoy the show!”
translation อย่างดุเดือดว่า
"คำแนะนำสำหรับคนอายุ 25 ใช่มั้ย!? ไปทำผิดพลาดให้หนำใจเลย จะซีเรียสอะไรกับชีวิตนักหนา! มึงล้ม มึงลุกขึ้น มึงล้มอีก...ยังงี้ซิว่ะมันถึงจะมันส์! มึงอายุแค่ 25 เองเว้ย! สนุกกับชีวิตหน่อยเฮ้ย!"