ไตรมาส3.................4

ไตรมาสเป็นช่วงเวลา 3 เดือนที่เรามักเห็นนักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ
พูดถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจว่าจะดีขึ้นหรือเลวลงอย่างไร ไปรอด
หรือไม่ในช่วงเวลา3เดือน ในปีหนึ่งจะมี 4 ไตรมาส

ในปี 2016 นี้ เว็บของเรามาถึงไตรมาสที่3 กำลังจะขึ้นไตรมาสที่4
ซึ่งเป็น 3 เดือนสุดท้ายของปี2016 และอีก3เดือนคอกหมูจะอายุ
7 ปีเต็ม ซึ่งผมใช้คำว่า 7 ปีมาย้อมใจตัวเองในสภาวะที่สมาชิกยัง
กะท่อนกะแท่นอยู่เวลานี้ ว่าจะสามารถ อยู่ต่อถึงวันปีใหม่ขึ้นปีที่ 8
ในปี2017 หรือไม่

เคยพูดบ่อยๆว่าเปิดเว็บคอกหมูวันแรก คนที่เข้ามาคนแรกก็คือนาย
ใหญ่ โพสต์ว่า เข้ามาคนแรกเลยวุ้ย...เพราะตอนแรกเวลาเสิร์ช
หาเว็บคอกหมูก็จะมีลิ้งค์ขึ้นมาพร้อมกับคำพูดของนายใหญ่นี่แหละ

ที่เขียนมานี่ไม่เจตนาจะยกยอปอปั้นนะครับ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
จนระยะหลังแม้จะกะท่อนกะแท่นบ้างก็ยังสม่ำเสมออยู่

ส่วนสมาชิกทั้งหมดในปัจจุบัน ก็พยายามจะรักษาเว็บนี้ไว้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเราจะไปถึงจุดใหน
แม้ว่าไม่ได้โพสต์ผมก็เห็นรายชื่อที่เวียนเข้ามากันทุกคน

เว็บคอกหมู ไม่ได้เป็นเว็บที่เปลี่ยนแปลงโลกหรือสังคม หรือเป็นเว็บที่ต้องการอะไรจาก
ภายนอก แต่สิ่งที่ทำก็เกี่ยวกับเพื่อนล้วนๆ และเป็นสิ่งที่ดึงอดีตจากหนองบอนมาเกือบ
ครบบริบูรณ์เกินกว่าที่ผมตั้งใจไว้

คนที่เราพูดถึงกันน้อย หรือคนที่ไม่คิดจะได้เจอ ย้อนไปเลยสมัยที่ผมอยู่เสียอีก ไมาว่า
จะเป็นพี่เทียนชัย หรือพีอีกคนหนึ่งที่เข้ามาในไลน์กลุ่ม

ในส่วนที่ผมรู้จัก ล่าสุด นายใหญ่ก็ขุดเอา กิ่งจันทร์ กับแตงอ่อน มาให้เห็นจนได้ รุ่นนี้
เป็นรุ่นแรกที่ผมสอนเลยนะครับ แล้วก็ยังมีสมพร(ที่เสียชีวิตไปแล้ว)มั้ง อีกคน เป็นน
รุ่นเดียวกับทองคำ

พี่ถนัดเร็วๆนี้ก็คงได้เจอ เพราะกูเกิ้ลชี้เป้าไปถึงปากซอยเลยละครับ
แต่คนที่ยังไม่มีใครพูดถึงเลย

อย่างมนัส อดโท อุษา ทิดอ่ำ ใครมีข่าวหรือพบเจอก็บอกด้วย
ส่วนจำเริญ สารวัตรจุ๊บ ก็คงอยู่ที่ตราดนั่นแหละ อีกรายก็ เซ็ต
ของครูพรสวรรค์ ไม่รู้ไปอยู่ใหนเหมือนกัน
ถ้าเปรียบเหมือนการต่อภาพจิ้กซอว์ ก็คงเหลืออีกไม่กี่ชิ้นนะครับ

ช่วยๆกันหน่อย (โว้ย)

กรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุน ต้องคำพิพากษาให้ต้องโทษจำคุก 20 ปี ไม่รู้ว่าพันธ์มิตรบางกลุ่มจะพอเข้าใจไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเหตุที่มันเกิดขึ้นมันเกี่ยวเนื้องหรือเป็นผลมาจากการชุมนุมหรือไม่ หรือเป็นผลมาจากตัวของนายสนธิเองหรือปล่าว ก็ลองวิเคราะห์กันดูนะครับ อาจจะเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวของนายสนธิเองก็ได้นะครับ

ความเห็นจากวิศวกร

Pat Hemasuk
13 นาที ·
อะไรผิดอะไรถูกนั่นคือเรื่องที่ศาลได้พิจารณาไปแล้ว คนทำผิดย่อมได้รับผลทีตัวเองได้ทำเอาไว้ คนเราถ้าทำผิดนั้นก็คือผิด จะพูดขี้ให้กลายเป็นข้าวไม่ได้หรอก

แต่อย่างน้อยคุณสนธิก็เดินยืดอกเข้าไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาทั้งที่รู้ว่าตัวเองนั้นต้องติดคุกแน่นอน ต่อให้เด็กเรียนกฎหมายปี 2 ก็อ่านคำพิพากษาทั้งสองศาลแล้วเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าคุณสนธิไม่มีทางรอด และตัวของคุณสนธิเองก็ยอมรับผิดต่อศาลไปเรียบร้อยแล้ว คดีไม่มีทางพลิกไปเป็นอย่างอื่นได้ อย่างน้อยๆ จะชั่วจะดีคุณสนธิก็ทำอย่างที่แกเคยบอกเอาไว้ว่า จะไปฟังคำพิพากษาแน่นอน

********************************************************************************
"ผมไม่เคยมีความคิดที่จะไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาทั้งๆ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุธรณ์พิพากษาจำคุกทั้งสองศาล ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะผมมีศักดิ์ศรีมีครอบครัว มีลูกน้อง และมีพี่น้องพันธมิตรที่จะได้เชิดหน้าไม่อายใคร ที่สำคัญที่สุดเหนืออื่นใดคือผมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม"
สนธิ ลิ้มทองกุล

**************************************************************************************

ผมไปฟังคุณสนธิปราศัยเกือบทุกคืนเมื่อครั้งชุมนุนเมื่อสิบปีก่อน ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้าไปยึดทำเนียบ จนถึงวันที่เดินกลับออกมาจากการเข้ายึดสนามบิน นั่นคือผมถือว่าเสร็จภาระกิจของผมและเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เข้าไปช่วยคุณสนธิในนามของพันธมิตรฯ

หลังจากนั้นผมจะพูดเสมอว่า ภาระกิจของ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" นั้นจบสิ้นแล้ว เพราะว่า พธม. นั้นคือกลุ่มประชาชนหลากหลายอาชีพและการรวมตัวจากหลายองค์กรทั่วประเทศมารวมตัวกัน เมื่อภารกิจเสร็จแล้วก็คือจบกันไป พันธมิตรฯ ไม่ใช่ของคุณสนธิและพรรคพวกตามที่บางคนเข้าใจแต่อย่างไร และนั่นคือวันสุดท้ายที่ผมดูช่อง ASTV ทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมเปิดแช่เอาไว้ช่องเดียวในบ้านมาเกือบปี จะเห็นว่าการชุมนุมของคุณสนธิในปี พ.ศ. 2554 ที่สะพานมัฆวานและหน้าทำเนียบรัฐบาลนั้นไม่มีใครเอาด้วยกับคุณสนธิ แถมคนเก่าๆ ที่ไม่มาร่วมด้วยยังโดนคุณสนธิด่าออกอากาศอีก และนั่นคือจุดจบของคุณสนธิในฐานะผู้นำมวลชนบนท้องถนน

คนเรามีดีมีเลว แต่ถึงวันนี้ผมอยากยกสุราคาราวะคุณสนธิหนึ่งจอก เพราะคุณสนธิได้ทำไว้อย่างที่พูดไว้บนเวทีก็คือ
"ไม่ว่าฝุ่นจะตลบ พายุจะแรงขนาดไหน หลังฝุ่นจางลง ถ้าพี่น้องหันกลับมาก็จะเห็นผมยังยืนอยู่ที่เดิมไม่หนีไปไหน