นำเกร็ดความรู้การปฏิวัติโค่นล้มระบอบกษัตริย์ในฝรั่งเศส ที่พวกคอมมิวนิสต์ในเอเชีย
ยึดเป็นต้นแบบมาให้อ่านกัน
ใน ค.ศ. 1793 พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ทรงถูกสำเร็จโทษโดยการบั่นพระศอด้วยเครื่องกิโยติน ทั้งยุโรปจึงเห็นถึงความระห่ำของฝรั่งเศส ตั้งสัมพันธมิตรครั้งที่ 1 (First Coalition) ฝรั่งเศสชนะกองทัพต่างชาติที่วาลมี และยึดเมืองนีซ และแคว้นซาวอย ใน ค.ศ. 1792 และโมนาโค ในค.ศ. 1793 พวกฌีรงแด็งหัวรุนรุนแรง เรียกว่า พวกมงตาญาร์ (Montagnard) หรือพวกฌากอแบ็ง เช่น รอแบ็สปีแยร์ (Robespierre) ดังตอง (Danton) มีอำนาจเพราะสงครามทำให้ประเทศต้องการการปกครองที่เด็ดขาด พวกฌากอแบ็งนำทัพบุกสภากองวังเชียง ทำให้พวกฌีรงแด็งหัวอ่อนถูกกวาดล้าง หลบหนีไปซ่อนตามป่าเขา แคว้นวังเดลุกฮือมากขึ้น ฝ่ายปฏิวัตินำทหารเข้าปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เวิงดีพินาศย่อยยับ กลายเป็นแคว้นร้าง ทางการประกาศเกณฑ์ประชาชนทุกคนชายหญิงเด็กชราให้มาทำงานในกองทัพ
รอแบ็สปีแยร์ประกาศความน่าสะพรึงกลัว (Terror) เพื่อสร้างความโหดเหี้ยมให้ฝรั่งเศส และประกาศ Law of Suspects นักโทษการเมืองไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และตั้งศาลปฏิวัติ (Revolutionary Tribunal) ซึ่งทุกคนที่ขึ้นศาลนี้จบลงที่กิโยตินทุกคน ทั้งพระนางมารี อังตัวเนต พระราชวงศ์ พวกเฟยยองต์ พวกฌีรงแด็ง กษัตริย์นิยม และประชาชน ต่างต้องสังเวยเครื่องกิโยติน รอแบ็สปีแยร์ยังให้เลิกนับถือคริสต์ศาสนา เลิกใช้คริสต์ศักราช แต่ใช้ศักราชปฏิวัติ นับปี ค.ศ. 1793 เป็นปีที่ 1 และมีการตั้งศาสนาใหม่ คือ ลัทธิแห่งเหตุผล (Cult to Reason) นับถือเทพธิดาชื่อเหตุผล